กทม. ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมขยะครั้งใหญ่! เปลี่ยนวิธีคิดเรื่อง “ขยะ” ของคนกรุงเทพฯ
ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของคนกรุงเทพฯ เมื่อกรุงเทพมหานครได้เริ่มจัดเก็บ ค่าธรรมเนียมขยะอัตราใหม่ อย่างเป็นทางการแล้ว ภายใต้ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย พ.ศ. 2568 ซึ่งมีการปรับเพิ่มอัตราการเก็บค่าขยะ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการจัดเก็บและการกำจัดขยะในปัจจุบันที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยอัตราใหม่แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้ 👇
-
กลุ่มที่ 1: บ้านเรือนทั่วไป
-
สำหรับครัวเรือนที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน
-
ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมขยะจากเดิม เดือนละ 20 บาท → เดือนละ 60 บาท
-
-
กลุ่มที่ 2: ร้านค้าและผู้ประกอบการรายย่อย
-
สำหรับผู้ที่มีปริมาณขยะเกิน 20 ลิตร แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร
-
ปรับขึ้นจากเดิม หน่วยละ 40 บาท → หน่วยละ 120 บาทต่อเดือน
-
-
กลุ่มที่ 3: อาคารพักอาศัยรวมและผู้ประกอบการรายใหญ่
-
สำหรับผู้ที่มีปริมาณขยะตั้งแต่ 1 ลูกบาศก์เมตรขึ้นไป
-
ปรับขึ้นจากเดิม หน่วยละ 2,000 บาท → หน่วยละ 8,000 บาทต่อเดือน
-
การปรับอัตราครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชน ตระหนักถึงต้นทุนของการจัดการขยะ และหันมาแยกขยะอย่างถูกวิธีมากขึ้น เพราะในแต่ละวัน กรุงเทพฯ ต้องจัดการขยะมูลฝอยกว่า 8,000 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นขยะเปียกและขยะอินทรีย์จากครัวเรือนที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้
“บ้านนี้ไม่เทรวม” ทางเลือกใหม่ ลดขยะ ลดค่าใช้จ่าย
เพื่อลดภาระค่าธรรมเนียมและสร้างพฤติกรรมใหม่ในการแยกขยะอย่างถูกต้อง กรุงเทพมหานครได้เปิดตัวโครงการ “บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม” โดยเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมผ่านแอปพลิเคชัน BKK WASTE PAY สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานได้แล้ว ทั้งในระบบ IOS และระบบ Android (ระบบ IOS :https://u.bangkok.go.th/Appbkkwastepay ระบบ Android : https://u.bangkok.go.th/Wastepayforandroid)
เพียงแค่แยกขยะตั้งแต่ต้นทาง และนำขยะรีไซเคิลหรือขยะอินทรีย์ไปจัดการอย่างถูกวิธี ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิ์ลดค่าธรรมเนียมขยะ เหลือเพียง 20 บาทต่อเดือน สำหรับกลุ่มบ้านเรือนทั่วไปที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน
ส่วนผู้ที่มีขยะเกินกว่า 20 ลิตรต่อวัน เช่น ร้านค้า หรืออาคารพักอาศัยรวม ก็สามารถลดค่าธรรมเนียมได้เช่นกัน หากมีการแยกขยะและลดปริมาณขยะที่ต้องทิ้งอย่างต่อเนื่อง
การปรับอัตราค่าธรรมเนียมในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย แต่เป็น จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม เพื่อให้คนกรุงเทพฯ หันมามอง “ขยะ” ในมุมใหม่ — ขยะที่แยกได้คือทรัพยากรที่มีค่า
เพราะทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการลดขยะต้นทางได้ ไม่ว่าจะเป็นการแยกขยะอินทรีย์ ขยะรีไซเคิล หรือขยะอันตรายออกจากกัน การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เหล่านี้จะช่วยให้กรุงเทพฯ ก้าวสู่ เมืองสีเขียวที่สะอาด ยั่งยืน และน่าอยู่มากขึ้นในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก: สำนักงานประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร BMA Data Center

